ในฐานะพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล อย่าง “พรรคภูมิใจไทย” โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงเป็นอีกหนึ่งพรรค ที่หลายฝ่ายเฝ้าติดตามในเลือกตั้ง 2566 ครั้งนี้ นโยบายพรรคภูมิใจไทย ที่พรรคได้เดินหน้าปราศรัย พร้อมกับเผยนโยบาย2566 ในรูปแบบเป็นชุด “พูดแล้วทำ” ครอบคลุม การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และการพัฒนาประเทศในอนาคต

นโยบายหลัก ที่แม้จะถูกต่อต้านหนัก แต่ภูมิใจไทย ยังคงให้ความสำคัญกับ “กัญชาทางการแพทย์” และกัญชาเพื่อเศรษฐกิจ การเลือกตั้งครั้งหน้า สิ่งที่ภูมิใจไทยจะต้องทำให้ได้คือ ผลักดัน กฎหมายกัญชา กัญชง ที่รัฐบาลนี้ เตรียมประชุมทีไร ก็รัฐสภาล่มทุกครั้งคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

พีพีทีวีสรุป นโยบายพรรคภูมิใจไทยที่ใช้ในเลือกตั้ง 2566 เอาไว้แล้ว

  • นโยบายสาธารณสุข

และความที่ หัวหน้าพรรค อย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอย่างยาวนาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตโรคระบาดโควิด -19 การที่ได้รับความชื่นชมในเวทีระดับโลก ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ใช่ผลงานนายอนุทิน ดังนั้น นโยบายด้านสาธารณสุข ก็จะถูกเดินหน้าต่อ จากวันนี้ที่มี นโยบาย “cancer anywhere” หรือ มะเร็งรักษาทุกที่

หลังเลือกตั้ง2566 พรรคภูมิใจไทย ก็ยังมองเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยผลักดัน ศูนย์ฉายรังสีมะเร็งฟรี เป็นการจัดตั้งศูนย์ ฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งฟรี 1 จังหวัด 1 ศูนย์ ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น รวมถึง การตั้งศูนย์ฟอกไตฟรี โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ฟอกไต 1 เขต 1 ศูนย์ ให้บริการประชาชนลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและญาติ

ส่วนที่จะตามมาติดๆ ก็ยังคงเป็น การดูแล “อสม.” ที่ก่อนปิดฉากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ พรรคภูมิใจไทยได้ผลักดัน การเพิ่มค่าป่วยการ อสม.เป็น 2,000 บาท จนสำเร็จ

  • นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ได้แก่ การพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พรรคภูมิใจไทย มีเป้าที่จะพลักดัน

  1. เพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวสู่ 80 ล้านคน เพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว สู่ 6 ล้านล้านบาท ภายในปี 2570
  2. สร้างงานดี งานดี 10 ล้านตําแหน่ง เพิ่มอัตราการจ้างงาน สร้างแรงจูงใจ พัฒนาศักยภาพแรงงาน
  3. กองทุนท่องเที่ยว ชุมชนดี แหล่งท่องเที่ยวดี และผู้ประกอบการดี ด้วยกองทุน ท่องเที่ยว
  4. เพิ่มรายได้ในภาคการท่องเที่ยว โดยการเพิ่มระยะเวลาการพํานัก จํานวนการใช้จ่ายต่อคน และ เพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวกลุ่มใช้จ่ายสูง
  5. 365 วัน เที่ยวทุกที่ เที่ยวทั้งปี รายได้ดี ไม่มีวันหยุด
  6. กําจัด Low Season แก้ปัญหาการกระจุกตัวของ นักท่องเที่ยว สร้างสมดุลของการ ท่องเที่ยวทั้งในเชิงพื้นที่และเวลา ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย โดยใช้ Event รูปแบบต่าง ๆ ทั้งระดับชาติ และระดับนานาชาติ ดึงดูดการเดินทางท่องเที่ยวให้กระจายตัวไปยังเมืองต่าง ๆโดยเฉพาะในช่วง Low Season จํานวนไม่น้อยกว่า 300 กิจกรรม
  7. สร้างเศรษฐกิจ ด้วยงานเทศกาล ปั้นเมือง สร้างงาน วางรากฐาน "ท้องถิ่นเข้มแข็ง" "ดึง" งานระดับโลกมาจัดที่ประเทศไทย "ดัน" งานเทศกาลไทยสู่ระดับโลก
  8. การดึงงานกิจกรรมระดับนานาชาติ มาจัดในพื้นที่ศักยภาพ ก่อให้เกิดการพัฒนาเมือง พัฒนาพื้นที่ เกิดการจ้างงาน และสร้างผล พลอยได้อื่น ๆ อีกมากมาย
  9. Wellness Resort of the World รักษา เมืองหลัก พักฟื้น เมืองรอง จุดหมายแห่งการ "รักษา" "พักผ่อน" และ "ฟื้นฟู" ร่างกายและจิตใจ ของประชากรโลก
  10. Low Carbon Destination มุ่งสู่การท่องเที่ยวสมัยใหม่ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และชุมชน
  11. เพิ่มพื้นที่ท่องเที่ยวคาร์บอนฯ ต่ำลดโลกร้อน รองรับการท่องเที่ยวสมัยใหม่ ตามแนวเศรษฐกิจ BCG
  12. ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ Low Carbon นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ และมีส่วน ร่วมกับกิจกรรมที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฯ โดยครอบคลุมทั้งเรื่อง ที่พัก กิน เที่ยว เช่น ปั่นจักรยานท่องเที่ยวแทนการใช้รถยนต์ ทานอาหาร
  13. Low Carbon Menu ที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นหลัก และเข้าพักในโรงแรมที่ใส่ใจ สิ่งแวดล้อม สร้างการยอมรับ และสร้างจุดยืนในเวทีโลก ตอบรับการเป็นจุดหมาย ปลายทางท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคํานึงถึงคนรุ่นหลัง
  • นโยบายพักหนี้

พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท

ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก จากสถานการณ์สงคราม และ สถานการณ์โรคระบาด เพราะโรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนจำนวนมาก เป็นหนี้ และไม่มีรายได้ชำระหนี้ได้ ตามกำหนด ส่งผลให้หนี้เพิ่มขึ้น เพราะดอกเบี้ยเดินไม่หยุด

เพื่อลดปัญหาหนี้สินให้ประชาชน “พรรคภูมิใจไทย” จึงชูนโยบายนี้ เพื่อประชาชนมีเวลาตั้งหลัก เริ่มต้นใหม่ เป็นเวลา 3 ปี จะทำให้มีความสามารถชำระหนี้ เพิ่มขึ้น ไม่ต้องจ่ายทั้งเงินต้น และ ดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 ปี และดอกเบี้ยจะไม่มาทบต้น ทบดอก เหมือนโครงการพักหนี้เกษตรกร และ พักหนี้อื่นๆ ที่เคยมีมา

  • นโยบายด้านเกษตร

“ เกษตรร่ำรวย” ด้วย Contract Farming รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน

นโยบาย “ เกษตรร่ำรวย” ด้วย Contract Farming จะนำมาใช้กับ 4 ชนิด ที่มีการกำหนดราคารับซื้อล่วงหน้า ในตลาดโลก ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และ ปาล์มน้ำมัน และจะขยายไปสู่พืช หรือ ผลผลิตการเกษตรชนิดอื่นๆ ต่อไป เช่น ข้าวโพด มะพร้าว ลำไย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ ของประเทศไทย

ปัจจุบันนี้ เกษตรกรที่ทำเกษตรแบบ Contract farming กับภาคเอกชน สามารถขายผลผลิตได้ราคาที่มีกำไร เพื่อให้เกษตรกรทุกรายมีโอกาสเข้าสู่ระบบนี้ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร และมีกำไร อย่างยั่งยืน

การลดความเสี่ยงให้แก่เกษตรกร จึงเป็น การแก้ปัญหาหนี้สิน และ การเพิ่มรายได้ ให้เกษตรกรมีกำไรจากการทำไร่ ทำนา ที่ได้ผลที่สุดการลดความเสี่ยง หรือ การทำให้เกษตรกร ไม่ขาดทุน และ มีกำไร ทุกฤดูกาลผลิต จึงเป็นหลักประกันในการประกอบอาชีพที่ดีที่สุด

  • นโยบายพลังงาน

เน้นพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน

  1. ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท
  2. มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อน เดือนละ 100 บาท 60 งวด

เป็น 2 โครงการที่มีความเชื่อมโยงกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน เพื่อเป็นการนำประเทศไทย เข้าสู่กฎกติกาใหม่ของโลก คือ การใช้พลังงานสะอาด ที่เป็นมิตรต่อโลก และ ไม่ทำร้ายสุขภาพประชาชน ยิ่งหากผลิตได้เอง จะสามารถนำไปขาย นำเงินมาจัดทำโครงการ และพัฒนาต่อยอดได้

ประโยชน์ที่สำคัญ อีกประการของนโยบายพลังงานสะอาด คือ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้แก่คนไทย และประเทศไทย เพิ่มขึ้น

 เลือกตั้ง 2566 - "พรรคภูมิใจไทย" เปิด 16 นโยบาย “สุขภาพ-ท่องเที่ยว”

By admin